วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

มาสด้า2







ดีไซน์แบบ ไดนามิก
การพัฒนา Mazda2 สะท้อนถึงทิศทางใหม่ในการออกแบบของยานยนต์ มาสด้าจึงได้พิจารณาทิศทางการออกแบบที่หลากหลาย ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะตอบสนองความคาดหวังที่แตกต่าง ทีมผู้ออกแบบได้นำผลจากการศึกษามาเป็นดีไซน์แบบ ไดนามิก ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของมาสด้าอย่างชัดเจน ด้วยรูปทรงเส้นสายที่เฉียบคม แต่แฝงไว้ซึ่งความนุ่มนวล

เป้าหมายในการออกแบบคือ ความโดดเด่นของรูปทรงที่สะท้อนถึงพลังแห่งความเคลื่อนไหว ภายในยานยนต์ขนาดกะทัดรัด ด้วยเป้าหมายดังกล่าว ทีมผู้ออกแบบจึงได้กำหนดแนวคิดการออกแบบว่า 'สง่างามและสะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความเคลื่อนไหว' ซึ่งในที่นี้ ความสง่างาม สื่อถึงการออกแบบสร้างสรรค์ความงาม ซึ่งผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เช่นเดียวกับการสร้างสรรค์รูปทรง ที่เกิดจากแรงบันดาลใจส่วนตัว

ทีมผู้ออกแบบได้พิจารณาถึงความสอดประสานกันระหว่างการออกแบบภายนอก (ได้แก่ เส้นสายและการตกแต่งพื้นผิว ซึ่งสื่อให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเคลื่อนไหว) และบรรยากาศภายในตัวรถ สมรรถนะ ตลอดจนคุณสมบัติการใช้งาน เข้าด้วยกันอย่างเหมาะเจาะลงตัว ในขณะที่โครงเส้นของตัวรถมีความปราดเปรียว ปราศจากรายละเอียดที่เกินความจำเป็น

รูปทรงพื้นฐานซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นในการพัฒนาการออกแบบ เป็นการผสมผสานความไดนามิก ความสปอร์ต และความเรียบง่ายอย่างเหมาะเจาะ ขณะที่ในปัจจุบัน ความต้องการในคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ขนาดกลางหันมาออกแบบรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มาสด้ากลับลดระยะโอเวอร์แฮงค์ และเหลี่ยมมุมต่างๆ ออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้... "เราได้สร้างสรรค์ดีไซน์ที่โดดเด่น สะดุดตา หากแฝงไว้ซึ่งความงามที่เป็นอมตะ โดยการพัฒนารูปทรงพื้นฐานขึ้นมาก่อน และนำเอาบุคลิกอันปราดเปรียว และทรงพลังแบบรถ บีคาร์ ใส่เข้าไป"

"เราให้ความสำคัญกับ ขนาดที่กะทัดรัดของมาส้ดา2 และรูปทรงของตัวรถ การย่อส่วนวัตถุนับเป็นแนวทางการผลิตสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในสายเลือดของชาวญี่ปุ่นอยู่แล้ว พื้นฐานแนวคิดสร้างสรรค์ดังกล่าว จึงทำให้เราสามารถสร้างสรรค์รูปทรงที่ดูมีพลังอย่างเต็มพิกัด ให้กับตัวรถที่กะทัดรัดของมาสด้า2 ด้วยทักษะอันเหนือชั้นของทีมผู้ออกแบบ และผู้สร้างโมเดล แม้สัดส่วนของตัวรถจะเล็กลง แต่สัมผัสแห่งคุณภาพและพลังของมาสด้า2 ยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมด้วยดีไซน์แบบไดนามิกอัดโดดเด่น"

แนวคิดการออกแบบภายนอก 'ความเคลื่อนไหวที่สอดประสานกัน'
ทีมออกแบบได้ผสมผสานความเคลื่อนไหวที่สัมผัสได้ด้วยสายตา จากเค้าโครง รูปทรง เส้นสายของตัวรถ และแสงเงาบนตัวรถ เมื่อมีแสงตกกระทบ เพื่อสร้างความมีชีวิตชีวา และมิติที่หลากหลายอย่างที่ไม่ปรากฏในรถคอมแพ็คทั่วๆ ไป รูปทรงสปอร์ตสื่อให้รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึง การเคลื่อนไปข้างหน้า การขึ้นรูปที่เว้าลึกตลอดความยาวของบริเวณเสาเอ และเส้นสายที่สะดุดตา จากโค้งโป่งล้อหน้าสู่เส้นสายบนตัวถัง คือหัวใจสำคัญของดีไซน์ และเพื่อความกว้างขวางของพื้นที่ภายในรถ ตัวรถที่เว้าลึก สื่อให้เห็นถึงความพยายามที่จะลดองค์ประกอบด้านโครงสร้างที่ไม่จำเป็นออกให้มากที่สุด

ทุกๆ เส้นสายบนพื้นผิวตัวรถของมาสด้า 2 จะมีรูปลักษณ์ที่ดูเปลี่ยนไปตามทิศทางของแสงที่มาตกกระทบ เทคนิคการเล่นกับแสง เพื่อให้เกิดมุมมองที่แตกต่างในแต่ละองค์ประกอบของตัวรถนี้ นับเป็นศาสตร์ด้านความงามที่ชาวญี่ปุ่นมีความชำนาญอย่างมาก การผสมผสานความงามที่เกิดจากการสร้างความกลมกลืนให้กับเส้นสาย และพื้นผิวที่แตกต่าง ด้วยการใช้องค์ประกอบของแสงที่ตกกระทบบนตัวรถมาช่วยนี้ ทำให้ทีมออกแบบสามารถเพิ่มเติมลูกเล่น และรายละเอียดน่าสนใจมากมาย ให้กับรูปทรงไดนามิกของรถ




แนวคิดการออกแบบภายใน 'สัมผัสถึงความเคลื่อนไหวในทุกอณูของพื้นที่'
ห้องโดยสารของรถคอมแพ็คส่วนใหญ่ มักเน้นดีไซน์เรียบๆ และพื้นผิวที่แบนราบ แต่ห้องโดยสารของมาสด้า2 กลับฉีกแนวออกไปอย่างเด่นชัด ด้วยรูปทรงเส้นสายแบบเล่นระดับ ซึ่งผสานทั้งความแข็งแกร่งบึกบึนและสัมผัสแห่งความลื่นไหล

เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการปรับแต่งตำแหน่ง และรูปทรงของเสาเอ ผสานกับการออกแบบให้แนวระดับของขอบกระจกด้านล่าง ที่เทลาดลงด้านหน้าสู่ปลายสุดในตำแหน่งที่ต่ำเป็นพิเศษ เพื่อให้ทัศนวิสัยด้านหน้ารถที่ดีเยี่ยม นอกจากนั้น กระจกด้านข้างที่ใร้สิ่งกีดขวาง ยังให้ความรู้สึกที่โปร่งโล่งอีกด้วย

แผงอุปกรณ์หน้ารถให้สัมผัสที่แข็งแกร่ง หากแต่รูปทรงกลับดูไม่เทอะทะจนทำให้คนนั่งรู้สึกอึดอัด ปุ่มควบคุมต่าง ๆ ทั้งหมดจัดวางอยู่บริเวณกลางรถ ขณะที่บริเวณด้านซ้ายและด้านขวาของแผงอุปกรณ์ ไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ และโค้งไปด้านหน้า เพื่อส่งเสริมทัศนียภาพในตัวรถ ซึ่งในการออกแบบเหล่านี้นับเป็นการสร้างบรรยากาศที่โปร่งโล่ง และลดความรู้สึกคับแคบภายในห้องโดยสาร

ความสนุกสนานในการขับขี่
น้ำหนักที่เบากว่า เพื่อความกลมกลืนระหว่างสมรรถนะ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย นับเป็นจุดมุ่งหมายหลักประการหนึ่ง เพราะน้ำหนักของรถมีผลต่อสมรรถนะการวิ่ง การเลี้ยว และการหยุดรถ โดยพื้นฐานแล้ว ยิ่งน้ำหนักรถน้อยลง สมรรถนะของรถจะยิ่งดีขึ้นในทุกๆ ด้าน นอกจากนั้น น้ำหนักยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อการบริโภคเชื้อเพลิงของรถ ฉะนั้น ด้วยน้ำหนักที่เบา มาสด้า2 จึงให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีที่สุด โดยยังคงสมรรถนะการขับขี่ และความปลอดภัยจากการชน โดยเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อลดน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่จำเป็นของมาสด้า สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

1 - ตัวถังรถซึ่งใช้โครงสร้างสร้างแบบใหม่ และเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ สอดคล้องกับแนวคิด Crush Concept ใหม่
2 - มาตรการลดค่าฮีสเทอรีซีส เพื่อการลดการเสียรูปของวัสดุชิ้นส่วนจากการรับน้ำหนัก หรือแรงกระแทก โดยใช้จุดเชื่อมเฉพาะ ในชิ้นส่วนที่ต้องรับแรงกระแทกสูง ไม่ใช่ตัวถังรถทั้งคัน

ตัวถังรถมีการใช้ทั้งโครงสร้างเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษในสัดส่วนที่สูง โดยเฉพาะเสาบี และชิ้นส่วนหลังคาที่เชื่อมต่อเสาบีเข้าด้วยกัน ผลิตจากเหล็กกล้าที่สามารถรับแรงได้สูงถึง 980MPa ทำให้สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวรถ โดยไม่ทำให้น้ำหนักรถเพิ่มขึ้น



วิธีการอื่นๆ ที่ทำให้น้ำหนักของรถน้อยลง
- ไม่มีการใช้ Catalytic Converter ที่ท่อไอเสียด้านล่าง
- วางท่อไอดีที่ด้านบนของปล่องระบายความร้อนและยังเพิ่มประสิทธิภาพให้รับอากาศเย็นได้ดีขึ้น
- หม้อน้ำและพัดลมขนาดเล็ก ส่งผลให้การใช้ปริมาณน้ำยาหล่อเย็นน้อยลงตาม
- ใช้สายไฟสั้น เพราะมีการจัดวางตำแหน่งของชิ้นส่วนขนาดใหญ่และตัวจ่ายไฟฟ้าให้อยู่ใกล้กัน
- ชิ้นส่วนเกียร์อัตโนมัติ และฐานเกียร์ ที่ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักน้อยลง
- กระโปรงหน้ารถและบานพับขนาดเล็ก
- แม่เหล็กนีโอดีเมี่ยมสำหรับลำโพงที่ติดบริเวณประตู หุ้มด้วยกรอบและฝากันน้ำซึ่งทำด้วยพลาสติกชิ้นเดียว

ระบบส่งกำลังอันทรงพลัง พร้อมประหยัดพลังงานสูง
เครื่องยนต์ MZR 1.5 ขนาด 1,49 8 ซีซี. สี่สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 76 กิโลวัตต์ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที

คุณสมบัติหลักของเครื่องยนต์
- ระบบวาล์วแปรผัน (S-VT) Sequential Valve Timing ของมาสด้า
- ท่อไอดีพลาสติก พร้อมช่องแยกยาว 600 มม . และระบบฟอกอากาศในตัว
- วาล์วควบคุม (TSCV) Tumble Swirl Control Valves ในท่อร่วมไอดี
- การวางระบบท่อไอเสียในรูปแบบที่เรียบง่าย เป็นแนวเส้นตรง
- ลูกสูบแรงเสียดทานต่ำ แหวนลูกสูบที่มีอัตราการขยายตัวต่ำ ปราศจากชิมตั้งวาล์ว และรายละเอียดอื่นๆ ที่ช่วยให้ไม่เกิดการ สูญเสียแรงเสียดทาน ในส่วนของลูกสูบเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง และออกแบบด้วยรูปทรงที่สามารถลดแรงเสียดทาน

นอกจากนั้น เนื่องจากประเทศไทยมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถที่ใช้น้ำมัน E20 เครื่องยนต์ MZR 1.5 สำหรับจำหน่ายในประเทศไทย จึงสามารถเติมน้ำมัน E20 ได้

เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ในรุ่นเครื่องยนต์ MZR 1.5 ตอบสนองได้ดังใจ ขณะที่ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล ในทุกจังหวะของการเปลี่ยนเกียร์

ห้องโดยสารที่เงียบขึ้น คุณสมบัติด้านแอโรไดนามิกที่เหนือชั้น
มาสด้า2 ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อลดเสียงรบกวนจากถนนและเสียงลม เช่น การใช้แผงควบคุมที่ทำจากวัสดุลดการสั่นสะเทือน การใช้วัสดุดูดซับเสียงต่างๆ และด้วยคุณสมบัติด้านแอโรไดนิมิกที่เหนือชั้น ค่าซีดีของมาสด้าจึงอยู่ที่ 0.32 เท่านั้น เกิดขึ้นได้โดยอาศัยการ

ทีมวิศวกรของมาสด้า ใช้ซอฟต์แวร์ในการประเมินและจำลองในการออกแบบรถ ตามหลักแอโรไดนามิก ตลอดจนซอฟต์แวร์ด้านการพัฒนา ระบบเสมือนจริงอื่นๆ ตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นการพัฒนารถ มีการทดสอบในอุโมงค์ลมร่วมกันระหว่างทีมออกแบบ และผู้เชี่ยวชาญด้านเอโรไดนามิก เพื่อปรับแต่งรูปทรงของรถ ให้สามาถลดค่าซีดีลงให้ได้มากที่สุด และสะท้อนถึงแนวคิดหลักในการออกแบบอย่างครบถ้วน




คุณสมบัติการใช้งาน
มุ่งให้ความสำคัญกับผู้โดยสารด้านหน้า และความกว้างขวางภายในห้องโดยสารภายใต้รูปทรงภายนอกที่กะทัดรัด บริเวณพื้นที่ของผู้ขับขี่ จึงได้รับการออกแบบให้สามารถตอบสนองการใช้งาน และมอบความสะดวกสบายอย่างลงตัว ขณะเดียวกัน บริเวณที่นั่งด้านหลังก็ยังกว้างขวาง สะดวกสบายด้วย

คันเกียร์จัดวางที่ด้านล่างของแผงอุปกรณ์กลางด้านหน้ารถ เพื่อความสะดวกในการควบคุม และให้ความรู้สึกแบบรถสปอร์ต
เบาะที่นั่งด้านหน้ามีพื้นที่กว้างขวาง พื้นที่เก็บสัมภาระที่หลายหลากกระจายตามจุดต่างๆ ทั่วรถ ที่บริเวณด้านหน้าของชั้นวางของใกล้พื้นรถ มีพื้นที่ว่างขนาดพอเหมาะสำหรับวางโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องเล่น MP3 นอกจากนั้น ยังมีช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์เล่นเพลงดิจิตอล และช่องเสียบปลั๊กไฟ 12 โวลต์ สำหรับชาร์จไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ พื้นที่เก็บสำภาระมีความจุถึง 250 ลิตร เหนือกว่ารถอื่นๆ ในระดับเดียวกัน นอกจากนั้น เบาะที่นั่งด้านหลังที่แยกเบาะเป็นสองส่วน ในอัตราส่วน 60:40 จึงสามารถพับเก็บเบาะส่วนใดส่วนหนึ่งลง เพื่อวางสัมภาระเพิ่มเติม โดยที่ยังสามารถรองรับผู้โดยสารด้านหลังได้หนึ่งคน

ความประณีตในการผลิต
'คุณภาพที่เหนือชั้น ความงามที่แฝงประโยชน์ใช้สอย และความสนุกสนานในการขับขี่' มาสด้าให้ความสำคัญกับองค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้ โดยใช้ทั้งวิศวกรรมแบบ คันเซ - Kansei Engineering เทคนิคซึ่งให้ความสำคัญกับคุณค่าที่วัดไม่ได้ เช่น ความเพลิดเพลิน ความงาม และอารมณ์ความรู้สึก แทนคุณค่าในเชิงกายภาพต่างๆ และวิศวกรรมมนุษย์ร่วมกันในการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ถึงรายละเอียดต่างๆ ซึ่งผู้ใช้รถให้ความสำคัญ ทั้งภายในและภายนอก

จากนั้นจึงใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงที่ล้ำสมัย เพื่อพัฒนาแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งสอดคล้องลงตัวกับข้อพิจารณาต่าง ๆ ในเรื่องสไตล์ของรถ ในส่วนของวิศวกรรมมนุษย์ เราใช้หลักทฤษฎีแบบ Impedance matching - แนวทางการออกแบบซึ่งศึกษาถึงคุณลักษณะด้านร่างกาย และจิตใจของมนุษย์ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอุปกรณ์เครื่องจักรต่างๆ รวมไปถึงรถยนต์ เพื่อปรับเปลี่ยนคุณลักษณะต่างๆ ของอุปกรณ์เหล่านั้น ให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานของมนุษย์ เพื่อให้เกิดการทำงานประสานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระหว่างคนและเครื่องจักร



ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ระบบความปลอดภัยแบบ active เริ่มจาก ทัศนวิสัยรอบตัวรถที่ดียิ่งขึ้น การควบคุมรถ และการทำงานของระบบพวงมาลัยที่เหนือชั้น พร้อมด้วยระบบเบรค ABS สี่ล้อ และมระบบกระจายแรงเบรก EBD

ระบบความปลอดภัยแบบ passive ประกอบด้วยระบบกระจาย และดูดซับแรงกระแทก เสริมเหล็กความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษที่กันชนหน้า โครงสร้างรถใช้เหล็กกล้า ที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ ชิ้นส่วนรับแรงกระแทกใต้ท้องรถเป็นแนวเส้นตรง การออกแบบตัวถังรถด้านหน้า และด้านข้าง ให้มีการให้ตัวเพื่อสามารถกระจายแรงอัดออกไปได้มากที่สุด

ระบบปกป้องการชนจากด้านหน้า เป็นแบบกระจายแรงกระแทกสามทิศทาง เพื่อช่วยลดการยุบตัวของตัวรถ บริเวณพื้นที่วางขาของที่นั่งด้านหน้า และเพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บบริเวณช่วงขาด้านล่างของคนขับ โครงสร้างของแป้นเหยียบยังได้รับการออกแบบ เพื่อลดการเคลื่อนตัวสู่ด้านหลังอีกด้วย

มาสด้า 2 ให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีกว่า ด้วยน้ำหนักรถที่เบา พร้อมทั้งอัตราไอเสียที่ต่ำ มาตรฐาน Euro4 ลดการใช้ทรัพยากร ปริมาณการปลอดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง และลดมลพิษทางอากาศ จึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง

ชิ้นส่วนสามารถรีไซเคิลได้
ประมาณ 80% ของชิ้นส่วน โดยเฉพาะส่วนที่ผลิตจากเหล็ก อลูมิเนียม และโลหะอื่น ๆ สามารถนำกลับไปใช้ใหม่ ผ่านกระบวนการรีไซเคิลในปัจจุบันได้ นอกจากนี้มาสด้ายังมุ่งมั่นที่จะลดการใช้สารต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ตะกั่ว โครเมียม ชนิดเฮ็กซาวาเล้นท์ แคดเมียม และปรอท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น